โพสต์ by ผีแดง แมนยู.
รีพอร์ต

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเยือนถิ่นคราเวน คอตเตจ โดยปรับตัวผู้เล่นจากเกมแคปิตอล วัน คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ โดยทั้ง เวย์น รูนี่ย์ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ต่างก็ได้ยืนล่าตาข่ายกันในแดนหน้า

เริ่มเกมมาได้ 3 นาที ฟูแล่มได้ทักทายก่อนจาก ปาติม คาซามี่ ซึ่งก็ไปเข้ามือ ดาบิด เด เคอา สบายๆ จากนั้นในนาทีที่ 9 ทีมเยือนก็มาได้ประตูขึ้นนำ รูนี่ย์ได้บอลจ่ายทะลุมาให้จากฟาน เพอร์ซี่ ก่อนที่เขาจะรอจังหวะและจ่ายให้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย วิ่งขึ้นมาแปเข้าประตูไปโล่งๆ

เจ้าถิ่นเกือบตีเสมอได้จาก ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ อดีตหัวหอกปีศาจแดงที่วิ่งสอดขึ้นมายิงไปติด ราฟาเอล ดา ซิลวา ที่แหย่ขาสกัดออกหลังไปได้แบบหวุดหวิด และจากลูกเตะมุมในจังหวะดังกล่าว สตีฟ ซิดเวลล์ ก็พลาดในจังหวะขึ้นโขก ทำให้สกอร์ยังคงเป็นทีมเยือนที่นำอยู่ 1 ลูก

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาหนีห่างออกไปเป็น 2-0 ในนาทีที่ 20 แอดนาน ยานูซาย แทงขึ้นหน้าแบบพอเหมาะพอเจาะให้ฟาน เพอร์ซี่ ซัดตูมเดียวด้วยเท้าซ้ายเสียบเสาแรกผ่านมือ มาร์เต็น สเตเคเลนเบิร์ก เข้าไป ถือเป็นประตูที่ 9 ในฤดูกาลแล้วสำหรับดาวยิงดัตช์รายนี้

เกมรุกของทีมปีศาจแดงยังคงอันตรายต่อเนื่อง และอีกเพียง 2 นาทีต่อมาฟาน เพอร์ซี่ก็หลุดกับดักล้ำหน้าอีกครั้งจากการจ่ายขึ้นมาให้ของ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ และศูนย์หน้าหมายเลข 20 ก็จ่ายเข้ากลางให้รูนี่ย์ แปโล่งๆ เข้าประตูไปเป็น 3-0

แอชคาน เดเยก้า ของฟูแล่มมาโดนใบเหลืองไปเป็นคนแรกของเกมในนาทีที่ 32 หลังจากการไปทำฟาวล์ใส่เคลฟเวอร์ลี่ย์ จากนั้นรูนี่ย์ก็ได้ลองส่องไกลหลุดกรอบออกไป

ก่อนจบครึ่งแรก เคลฟเวอร์ลี่ย์ดูจะมีปัญหาเกี่ยวกับสายตา เขาเตะบอลออกข้างไป เกมหยุดเล่นกันอยู่นานจนต้องทดเวลาบาดเจ็บออกไป 4 นาที หลังจากนั้นผู้ตัดสินก็เป่านกหวีดหมดครึ่งแรก

ก่อนกลับมาเล่นกันใหม่ เดวิด มอยส์ ทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่นถึง 3 คนรวด โดยเอา มารูยาน เฟลไลนี่, ชินจิ คากาวะ และ คริส สมอลลิ่ง ลงมาเล่นแทน จอนนี่ อีแวนส์, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ และ ราฟาเอล ดา ซิลวา

ครึ่งหลังผ่านมาได้แค่นาทีเดียว คาซามี่ก็ได้ลองยิงหลุดกรอบออกไป โดยเกมรุกของฟูแล่มดูดีขึ้นมาทันที หลังจากที่ทีมเยือนทำการปรับทัพขนานใหญ่ โดยตอนนี้วาเลนเซียถูกถอยลงไปยืนเป็นแบ็คขวา ขณะที่ยานูซายถูกโยกไปยืนด้านขวา และให้คากาวะไปเล่นทางกราบซ้ายแทน

วาเลนเซียมาถูกจดชื่อไปบ้างในนาทีที่ 51 หลังจากไปทำฟาวล์ใส่คาซามี่ จากนั้น เฟอร์นานโด อโมเรบิเอต้า ของเจ้าถิ่นก็รับใบเหลืองไปอีกคนเช่นกัน

เฟลไลนี่เกือบทำประตูได้จากจังหวะเปิดฟรีคิกเข้ามาของรูนี่ย์ แต่ลูกโขกของมิดฟิลด์ชาวเบลเยียมก็ไปเข้าด้านข้างตาข่ายแบบได้เสียว และก็กลายเป็นเจ้าถิ่นที่มาได้ประตูตีไข่แตกในนาทีที่ 65 อเล็กซานเดอร์ กาคานิกลิช ยิงไปแฉลบขารูนี่ย์เสียบเสาสองเข้าประตูไป

หลังจากโดนยิงได้ไม่นาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็มาได้ลุ้นประตูหนีห่างไปอีก แต่ลูกยิงเลียดของยานูซายก็ไปเข้ามือสเตเคเลนเบิร์กสบาย ถึงตรงนี้ทีมปีศาจแดงเริ่มกลับมาครองบอลได้มากขึ้นแล้ว แต่ก็ยังหาจังหวะยิงได้ไม่มากนัก

นาทีที่ 82 กาคานิกลิชได้ลองยิงจากบริเวณกรอบเขตโทษ แต่บอลก็ลอยโด่งข้ามคานออกไป เจ้าถิ่นยังคงบุกกดดันอย่างต่อเนื่อง ดาร์เรน เบนท์ ที่เพิ่งเปลี่ยนตัวลงมาได้จังหวะโขกไปชนคานบนออกหลังไปแบบน่าหวาดเสียว

ช่วงท้ายเกม ฟูแล่มมาได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกโขกของ คีแรน ริชาร์ดสัน อีกหนึ่งอดีตนักเตะปีศาจแดง แต่บอลก็ยังหลุดเสาสองออกไปอีก จากนั้นเมื่อเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 3 นาที ซาสช่า รีทเธอร์ ก็มารอดถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม หลังจากที่ไปเตะอย่างน่าเกลียดใส่ยานูซายพร้อมกับเหยียบที่ข้อเท้า จากนั้นก็ไม่มีฝั่งไหนทำอะไรกันได้อีก จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงบุกมาเอาชนะไป 3-1

สถิติ